เมนู

ปุพพปโยคกถา


แลปุพพปโยคนั้น ว่าด้วยบุพพกุศลการแห่งท่านทั้ง 2 คือ พระเจ้ามิลินท์กับพระนาค-
เสนได้สั่งสอนอบรมมาแต่ปางก่อน ด้วยวาระพระบาลีว่า อตีเต กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน วิชิตาวี
นาม อโหสิ
เมื่อในอดีตภพล่วงลับไป ในศาสนาสมเด็จพระกัสสปทศพลญาณเจ้านั้น ว่ายัง
มีบรมกษัตริย์พระองค์หนึ่ง ทรงพระนามชื่อว่าวิชิตาวีบรมกษัตราธิราช พระบาทครองราชสม
บัติเป็นใหญ่ในสาคลราชธานี สงเคราะห์แก่อาณาประชากรชาวพระนคร ด้วยสังคหวัตถุ 4 ประการ
ทรงพระราชศรัทธา สร้างพระอารามสร้างวิหารลงแทบใกล้ฝั่งคงคาแล้ว ก็อาราธนานิมนต์พระ
มหาเถระอันรู้พระไตรปิฎกมาให้อยู่ที่วิหาร แล้วพระราชทานจตุปัจจัยทั้ง 4 มีพระราชาศรัทธา
ปรนนิบัติตราบเท่าสิ้นพระชนม์ ก็ได้ขึ้นไปบังเกิดในชั้นดาวดึงสาได้เป็นสมเด็จอมรินทร์ปิ่นพิภพ
เจ้าฟ้าสุราลัย แวดล้อมแห่ห้อมไปด้วยแสนสุรางค์นางฟ้า เป็นมโหฬาริกภาพ ด้วยอานิสงส์ที่
พระองค์สร้างวิหารและได้ถวายจตุปัจจัยทั้ง 4 และอารามที่พระเจ้าวิชิตาวีสร้างไว้ ถึงพระองค์
สิ้นพระชนม์ไปแล้วก็ดี ก็มีพระภิกษุอาศัยอยู่เป็นอันมากเหมือนแต่ก่อน
ครั้งนั้นยังมีพระภิกษุองค์หนึ่งทรงศีลสังวร เวลารุ่งเช้าจับสัมมัชชนีคันยาวได้ก็คมนาการ
ไปสู่สถานลานพระเจดีย์ ทำอัญชลีกรนมัสการแล้ว ก็ระลึกถึงพระพุทธคุณพลางกวาดลานพระ
เจดีย์พลาง ด้วยจิตศรัทธาเลื่อมใส จึงกวาดหยากเยื่อนั้นมามั่วสุมไว้เป็นกอง ๆ แล้วก็ร้องเรียก
สามเณรน้อยศิษย์ใช้สอยของอาตมา ให้ขนเอาหยากเยื่อไปทิ้งเสียจากกลายพระเจดีย์นอกบริเวณ
ส่วนว่าสามเณรนั้นพานจะอยู่ข้างเกียจคร้าน พระอาจารย์เรียกถึง 3 ครั้งก็นิ่งเฉยอยู่ ทำไม่ได้ยิน
พระภิกษุชีต้นจึงตีด้วยคันกราดแล้วด่าว่า ทุพฺพโจ ดูกรสามเณรใจกระด้างว่ายากสอนยาก
ส่วนว่าสามเณรนั้นก็ร้องไห้วิ่งไปด้วยเร็วพลัน ขนเอาหยากเยื่อนั้นไปเทเสียด้วยกลัว
อาจารย์ แล้วก็ตั้งปณิธานความปรารถนาว่าข้าพเจ้าได้ขนหยากเยื่อมาให้พ้นลานพระเจดีย์ ขอ
ผลบุญนี้แม้นข้าพเจ้าจะไปเกิดในภพใด ๆ ก็ดี ขอให้ข้าพเจ้านี้มีมเหศักดาเดช อันแกล้วกล้า
มชฺฌนฺติสุริโย วิย มีครุวนาดุจแสงพระสุริโยทัยเมื่อเพลาตะวันเที่ยง ทุก ๆ ชาติไปกว่าจะ
สำเร็จแก่พระนิพพาน ตั้งปณิธานความปรารถนาฉะนี้แล้วก็ลงไปสรงน้ำชำระกาย ดำผุดดำว่าย
ค่อยสบายใจ แลเห็นลูกระลอกในท้องชลาลัยนี้มากมายนักหนา ก็ยินดีปรีดาจะใคร่มีปัญญา
เฉลียวฉลาดไม่รู้สุดรู้สิ้น ดุจชลาสินธุธาราระลอกนั้น สามเณรก็อภิวันท์ขึ้นเหนือเกศ ตั้งปณิธาน
ปรารถนาอีกว่า เดชะที่ข้าพเจ้ากระทำตามคำพระชีต้น ท่านจะสงเคราะห์อาตมาให้ได้กองกุศล
จึงบังคับอาตมา เดชะผลานิสงส์นี้ข้าพเจ้ายังไม่ได้พระนิพพานตราบใด ยตฺถ กตฺถจิ อุปฺปชฺ-
ชามิ
ข้าพเจ้าจะเกิดไปในชาติใด ๆ ขอให้ข้าพเจ้านี้มีปัญญาดุจหนึ่งว่ากระแสดลูกคลื่นลูกระลอก